กกต.มีหนังสือให้กกต.จว.เพชรบุรีและเทศบาลตำบลท่าแลง ส่งรายงานค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าแลง ทั้ง ๒ เขตเลือกตั้ง เพื่อประกอบสำนวนในคำฟ้องให้ศาลอุทธรณ์/ศาลอุทธรณ์ภาค มีคำวินิจฉัยให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่แทนที่สมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งและถูกกกต.วินิจฉัยให้เพิกถอนผลการเลือกตั้งรวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญาและให้ชดใช้ค่าใช้จ่ายในการจัดการเลือกตั้งทดแทน
เมื่อวันอังคารที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๖๕ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ ๓๙/๒๕๖๕ ให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายเอื้อม ชุ่มจิตต์, นายยงค์ เพชรศิริ, นายศิริชัย เรืองศรี, นายสำรอง จัดพูล, นายธะเนตร เสมเถื่อน, นายณชพล จิวเมือง, นายบรรจบ จิตต์พุ่ม, นายวชิรศักด์ ภานุมาต, นายกนกพล พ่วงทอง, นายเสน่ห์ เทศเกิด, นายวีระสิทธิ์ อ่วมบุตร และนายสัญญา พ่วงทอง ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง สมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าแลง อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรีของกลุ่มพลังท่าแลง ในการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๘ มี.ค. ๒๕๖๔
นอกจากนี้ยังสั่งให้มีการเลือกตั้ง สท.ตำบลท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ในเขตเลือกตั้งที่ ๑ และเขตเลือกตั้งที่ ๒ ใหม่ แทน สมาชิกกลุ่มพลังท่าแลง ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น สท.ตำบลท่าแลง จำนวน ๗ คนประกอบด้วย นายศิริชัย เรืองศรี, นายสำรอง จัดพูล, นายธะเนตร เสมเถื่อน, นายบรรจบ จิตต์พุ่ม, นายกนกพล พ่วงทอง, นายเสน่ห์ เทศเกิด และนายสัญญา พ่วงทอง และให้ทั้ง ๗ คนดังกล่าวรับผิดในค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้งครั้งที่เป็นเหตุให้ศาลมีคำสั่งดังกล่าว และให้ดำเนินคดีอาญา กับนายเอื้อม ชุ่มจิตต์, นายยงค์ เพชรศิริ, นายศิริชัย เรืองศรี, นายสำรอง จัดพูล, นายธะเนตร เสมเถื่อน, นายณชพล จิวเมือง, นายบรรจบ จิตต์พุ่ม, นายวชิรศักดิ์ ภานุมาศ, นายกนกพล พ่วงทอง, นายเสน่ห์ เทศเกิด, นายวีระสิทธิ์ อ่วมบุตร, นายสัญญา พ่วงทอง, ผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง สท.ตำบลท่าแลงของกลุ่มพลังท่าแลง และนายจีรศักดิ์ เทศเกิด ผู้สนับสนุนกลุ่มพลังท่าแลงด้วย
คำสั่งดังกล่าวสืบเนื่องจากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ ๘ -๑๒ ก.พ.๒๕๖๔ มีการสมัครรับเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ตำบลท่าแลง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ได้มีผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ๒ กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มพลังท่าแลง ซึ่งมีนายสงวน จิตต์พุ่ม อดีตนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง เป็นหัวหน้ากลุ่ม และกลุ่มรวมใจคนรักท่าแลง ที่มีนายพรชัย ภู่ระหงษ์ อดีตรองนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง เป็นหัวหน้ากลุ่ม โดยทั้ง 2 กลุ่มส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น สท.ตำบลท่าแลงครบทั้ง ๒ เขตเลือกตั้งรวมกลุ่มละ ๑๒ คน
ต่อมาหลังวันรับสมัครเลือกตั้งปรากฏนายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.เพชรบุรี ในขณะนั้น มีคำสั่งจังหวัดเพชรบุรีให้นายสงวน เป็นผู้ถูกพ้นจากตำแหน่งฯ (ย้อนหลัง) เนื่องจากก่อนหน้านี้ขณะที่นายสงวน ยังดำรงตำแหน่งนายกฯท่าแลง ได้ถูกชาวบ้านท่าแลงนำโดยนายอนุวัต เวชสว่าง และกลุ่มชาวบ้านที่รวมตัวกันคัดค้านการเปิดบ่อขยะในพื้นที่ของบึงปรีดา ร้องเรียนให้ดำเนินการสอบสวนนายสงวนในฐานะนายกฯท่าแลง ละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่หรือประพฤติตนฝ่าฝืนกฎหมายตามกฎหมายว่าด้วยเทศบาล
โดยครั้งนั้นคำร้องเป็นผล นายกอบชัย บุญอรณะ ผวจ.เพชรบุรี ในขณะนั้นสั่งการให้นายอานนท์ พร้อมเพรียง นายอำเภอท่ายาง ตั้งกรรมการสอบสวนนายสงวน และสรุปว่า นายสงวนมีความผิดฐานจงใจทอดทิ้งหรือละเลยไม่ปฏิบัติการตามอำนาจหน้าที่อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ หรือประพฤติตนฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย หรือฝ่าฝืนคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอที่สั่งการ และมีคำสั่งให้นายสงวน พ้นจากตำแหน่งนายเทศมนตรีตำบลท่าแลง เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔ (หลังวันรับสมัครเลือกตั้ง)
ผลจากคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวส่งผลให้นายสงวนเป็นบุคคลผู้มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งใดๆ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยังไม่พ้น ๕ ปี นับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่งจนถึงวันเลือกตั้ง ผอ.การเลือกตั้งประจำเทศบาลตำบลท่าแลง จึงถอนชื่อนายสงวนออกจากการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทำให้นายสงวนถูกตัดสิทธิในการสมัคร กลุ่มพลังท่าแลง จึงเหลือเพียงลูกทีมจำนวน ๑๒ คน ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สท.ตำบลท่าแลง และ เมื่อเสร็จสิ้นการลงคะแนนเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๔ ผลการนับคะแนนปรากฏว่า กลุ่มพลังท่าแลง ได้รับเลือกตั้งเป็น สท.ตำบลท่าแลง จำนวน ๗ คน ส่วนกลุ่มรวมใจคนรักท่าแลงได้รับการเลือกตั้ง ๕ คน โดยมีนายพรชัย ภู่ระหงษ์ หัวหน้ากลุ่มรวมใจคนรักท่าแลง ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลงโดยไม่มีคู่แข่ง
หลังการเลือกตั้งปรากฏมีการร้องเรียนไปยัง กกต.ว่าขณะระหว่างช่วงเวลาการเลือกตั้ง กลุ่มพลังท่าแลง มีการกระทำความผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๖๒ ตามมาตรา ๖๕ แห่งพ.ร.บ.ดังกล่าวฯ กกต.ได้รับคำร้อง และดำเนินการสืบสวนสอบสวนพยานและหลักฐาน และปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผลการเลือกตั้ง สท.ตำบลท่าแลง เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๔ เกิดจากการเลือกตั้งที่มิได้เป็นไปโดยสุจริตหรือเที่ยงธรรม
สืบเนื่องจากหลังที่นายสงวน หัวหน้ากลุ่มพลังท่าแลง ถูกถอนชื่อจากการเป็นผู้สมัครนายกฯ ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุน มีการเคลื่อนไหวและบุกรุกเข้าไปตั้งเวทีปราศรัยโจมตีกลุ่มรวมใจคนรักท่าแลงในเขตเทศบาลตำบลท่าแลง ทั้งกลางวันและกลางคืน รวม ๖ วัน ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังที่ทำให้นายสงวนถูกถอนชื่อจากการเป็นผู้สมัครฯ และมีการรณรงค์ให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปจนกว่าจะมีการเปิดการรับสมัครใหม่
โดยอ้างว่านายสงวนถูกกลั่นแกล้ง ทั้งที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ และศาลปกครองเพชรบุรี ได้มีคำพิพากษาว่าเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งมีการรณรงค์ให้ผู้มีสิทธิในเขตเลือกตั้งกาบัตรเลือกตั้งในช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใดในบัตรเลือกตั้งนายกเทศมนตรีตำบลท่าแลง ซึ่งมีผลการนับคะแนนนี้ถึง ๑,๘๒๐ ใบ และผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลตำบลท่าแลง ผู้สมัครสมาชิกฯในกลุ่มพลังท่าแลง ทั้งสองเขตเลือกตั้ง ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาจำนวน ๗ คน กลุ่มรวมใจคนรักท่าแลงได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ๕ คน
กลุ่มรวมใจคนรักท่าแลง จึงยื่นคำร้องคัดค้านผลการเลือกตั้งว่ากลุ่มพลังท่าแลงมีการกระทำความผิด ฐานใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัคร และเป็นที่มาของการที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ ๓๙/๒๕๖๕ ให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง รับผิดในค่าใช้จ่ายสำหรับการเลือกตั้ง และดำเนินคดีอาญา กับกลุ่มบุคคล และประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกเทศบาลตำบลท่าแลงใหม่ดังกล่าว.
ข่าว-สุรพล นาคนคร จ.เพชรบุรี
