คาดหวังรมต.ศธ.ของรัฐบาลใหม่เป็นผู้มีความรู้ความสามารถจึงเป็นความหวังคนอาชีวศึกษาที่จะใด้เห็นการพัฒนาเช่นกัน
คนทั้งประเทศคาดหวังกันว่ารัฐบาลใหม่คงจะได้รัฐมนตรีที่มีความรู้ด้านการศึกษาเป็นพิเศษ รอบรู้ปัญหาการศึกษาที่ผ่านมาและอนาคตจะดำเนินการในทิศทางใด จะนำพาการศึกษาพัฒนาบุคลากรให้มีความเข้มแข็งทันต่อความก้าวหน้าการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโลก ซึ่งบุคลากรในหน่วยงานทางการศึกษาคงมีความต้องการเช่นกันคือการได้รมต.ศธ.มีออาชีพไม่ใช่ตั้งคนมาเพื่อเป็นที่ฝึกงานของรัฐมนตรีเท่านั้น แต่ต้องการมาพัฒนาการศึกษาของคนในประเทศไทยที่อยากให้มีการปฏิรูประบบการจัดการศึกษาการสร้างคนเพื่ออนาคตมีคุณภาพแข่งขันต่างชาติได้ สร้างความหวังอนาคตที่ดีกับผู้เรียนทุกระดับหรือเรียกว่าการยกระดับคุณภาพการศึกษาทั้งระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านอาชีวศึกษาซึ่งเป็นสถานศึกษาที่ผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพเพื่อการพัฒนาประเทศทุกสาขาวิชาชีพควรที่จะได้รับการสนับสนุนจากรัฐมนตรีฯ ที่มาดูแลกระทรวงศึกษาธิการ
นายเศรษฐศิษฏ์ ณุวงค์ศรี ประธานเครือข่ายคนรักษ์อาชีวศึกษาแห่งประเทศไทย(ค.ร.อ.ท.)ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และคาดหวังว่าพรรคการเมืองที่ได้รับผิดชอบในกระทรวงศึกษาธิการ จะส่งบุคคลที่มีความรู้ประสบการณ์และให้ความสำคัญกับการอาชีวศึกษาซึ่งเป็นหน่วยงานทางการศึกษาที่ผลิตกำลังคนเพื่อให้ออกไปประกอบอาชีพอิสระและเข้าทำงานในสถานประกอบการ ผู้สำเร็จการศึกษาจะต้องเป็นผู้มีความรู้ความสามารถที่จะนำวิชาชีพไปประกอบอาชีพอิสระหรือเข้าสู่สถานประกอบการและมีทักษะตรงตามสถานประกอบการซึ่งรวมไปถึงการจัดการศึกษาในรูปแบบทวิภาคี นั่นคือการจัดการเรียนการสอนที่เป็นความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับสถานประกอบการซึ่งปัจจุบันนี้การจัดการศึกษาระบบทวิภาคีของอาชีวศึกษา ยังไม่ได้เดินทางไปสู่เป้าหมายที่ดีหรือยังไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากปัญหาและอุปสรรคหลายด้านไม่ว่าจะเป็นความไม่พร้อมของผู้เรียนหรือแม้แต่สถานประกอบการที่มีอยู่ก็ยังไม่ได้ยอมรับกับการจัดการศึกษาทวิภาคีของอาชีวะเท่าที่ควร โดยที่ผ่านมาสถานประกอบการจะมีความเข้าใจแค่ว่าผู้เรียนหรือนักเรียนของอาชีวะเข้ามาฝึกงานในระยะสั้นๆไม่น่าจะเกิดประโยชน์อะไรมากนักกับสถานประกอบการ รวมถึงกฎหมายที่ไม่เอื้อต่อการร่วมจัดการเรียนของสถานประกอบการ ดังนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่เข้ามารับผิดชอบจะต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องของสถานประกอบการกับการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีรวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องต้องได้รับการแก้ไขเพื่อให้เอื้อต่อสถานประกอบการจะได้ร่วมมือการจัดการเรียนการสอนของอาชีวะทวิภาคีได้อย่างแท้จริง
ประธานค.ร.อ.ท.ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงงบประมาณที่ไม่เพียงพอ ที่จะสนับสนุนในการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาการบริหารบุคลากรที่มีคุณภาพ จะต้องมีกฎหมายรองรับอาชีวะเป็นกรณีพิเศษเพื่อจะให้เอื้อต่อการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพรวมถึงการแก้ไขพรบการศึกษาอาชีวศึกษา พ.ศ. 2551ซึ่งมีการใช้มานานและพบปัญหาและอุปสรรคในการบริหารจัดการ จึงจำเป็นต้องได้มีการแก้ไข พ.ร.บ. ดังกล่าวเพื่อให้เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนที่ได้คุณภาพที่แท้จริงโดยขณะนี้สมาชิกเครือข่ายฯ กำลังรวบรวมประเด็นปัณหาต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการเรียนการสอนด้านอาชีวะ เพื่อจะนำเสนอต่อรัฐมนตรีศธ. คนใหม่ในวันที่เข้ามารับตำแหน่งโดยทันที ซึ่งตนเองมีความเชื่อมั่นว่าเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ต้องให้ความสำคัญกับอาชีวศึกษาแบะต้องได้รับการแก้ไขพัฒนาให้การสนับสนุนดีกว่าปัจจุบันน่นอน