

ผอ.สปสช.เขต 6 ระยอง ลงพื้นที่ รพ.ชลบุรี ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามนโยบายลดความแออัดใน รพ.ของรัฐ โดยใช้กลไกร้านยาคุณภาพ มั่นใจพร้อมเดินหน้า “ผู้ป่วยรับยาร้านยาคุณภาพ” พร้อมดูการเชื่อมต่อระบบการจ่ายยา การดูแลผู้ป่วย ลดการรอคอยใน รพ.
วันที่ 9 ตุลาคม 2562 นพ.พีระมน นิงสานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 6 ระยอง ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานตามนโยบาย “ลดความแออัดในโรงพยาบาลโดยกลไกร้านยาคุณภาพ” ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ( สปสช.) ที่เริ่มให้ผู้ป่วยสมัครใจไปรับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้านได้ พร้อมลงพื้นที่เยี่ยม คลินิกหมอครอบครัว ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองชลบุรี และร้านขายยาสมนึกเภสัช โดยมี นพ.สวรรค์ ขวัญใจพานิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลชลบุรี ภก.ชัยรัตน์ ศิริสุนทรลักษณ์ กรรมการสมาคมผู้ประกอบการร้านขายยาจังหวัดชลบุรี ภญ.ศุภมนันย์ กวินศิริคุณ นายกสมาคมเภสัชกรจังหวัดชลบุรี และคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับ
นพ.พีระมน นิงสานนท์ กล่าวว่า “สปสช.และกระทรวงสาธารณสุขตอบสนองนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้มีนโยบายเพื่อมุ่งลดความแออัดในโรงพยาบาล โดยใช้กลไกร้านขายยาแผนปัจจุบันเป็นกลไกหนึ่งเข้ามาช่วยลดเวลาการรอคอยรับยาในโรงพยาบาล ทั้งช่วยเพิ่มความสะดวกในการรับยาให้กับผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ด้วยการดึงเอาร้านขายยาของเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ในปีงบประมาณ 2563 ตั้งเป้าให้ดำเนินการในโรงพยาบาลทั่วประเทศ 50 แห่ง ร้านขายยา 500 แห่ง สำหรับในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 6 ดำเนินการไปแล้วในโรงพยาบาล 5 แห่งใน 4 จังหวัด มั่นใจที่จะดำเนินการได้ครบทั้ง 8 จังหวัด
เบื้องต้นโครงการนี้ดำเนินการดูแลเฉพาะผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ใน 4 กลุ่มโรค คือ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หอบหืด จิตเวชเรื้อรัง รวมถึงโรคเรื้อรังที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งแพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นผู้ประเมินผู้ป่วยว่าอาการคงที่แล้ว เป็นโครงการที่เป็นทางเลือกตามความสมัครใจของผู้ป่วย ไม่มีการบังคับ และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม “ อยากให้สื่อมวลชนทราบว่าผู้ป่วยได้รับยาจากร้านขายยาคุณภาพเทียบเท่ากับยาที่ได้รับจากโรงพยาบาล ดีกว่าตรงที่ ผู้ป่วยมีโอกาสได้ปรึกษาด้านสุขภาพกับเภสัชกรมากขึ้น ร้านขายยาทุกร้านมีมาตรฐานGPP : Good Pharmacy Practice จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ทางโรงพยาบาลชลบุรีมีระบบการคัดเลือกอย่างเข้มข้น รับประกันในคุณภาพยา การบริการให้กับผู้ป่วย ”


“ จากการดำเนินงานตั้งแต่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ร้านขายยาได้มีการบันทึกข้อมูลเพื่อเบิกกับ สปสช.แล้ว และยังไม่พบปัญหาอุปสรรคจากการเบิกที่ สปสช.มีงบประมาณให้ 70 บาทต่อ 1 ใบสั่งยา ซึ่งมีผู้ป่วยไปใช้บริการที่ร้านขายยาในชุมชนแล้ว ”
“โรงพยาบาลชลบุรี รับรักษาพยาบาลกับผู้ป่วยเฉพาะโรคที่มีความซับซ้อน รักษายากที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์เฉพาะทาง ที่ผ่านมารับผู้ป่วยประมาณ 1 ล้านvisit หรือเฉลี่ย 4,000คน/วัน กลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ไม่หนักมาก เป็นโรคเรื้อรังที่มีอาการคงที่จะถูกส่งต่อไปรักษาที่ คลินิกหมอครอบครัว ของโรงพยาบาล ซึ่งที่นี่รับรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่ walk in, เป็นผู้ป่วยโรคเรื้อรัง แต่ละวันให้บริการผู้ป่วย 500-600ราย/วัน และมีการส่งต่อผู้ป่วยเป็นระดับตามศักยภาพการรักษา นอกจากดูแลผู้ป่วยที่มีอาการคงที่แล้ว ผู้ป่วยส่วนหนึ่งยังถูกส่งไปรับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)ในเขตเมืองอีกด้วย
อนึ่งก่อนหน้านี้ทางโรงพยาบาลชลบุรีได้มีประสานงานเตรียมความพร้อมรองรับนโยบายนี้มาระดับหนึ่ง โดยใช้โมเดลที่หนึ่ง (โรงพยาบาลส่งยาไปให้ร้านขายยา) มีผู้ป่วยสมัครใจรับยาที่ร้านขายยาแล้ว 85 คนในโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง นพ.สวรรค์ ผอ.รพ.ชลบุรี กล่าว
“ทางโรงพยาบาลชลบุรี ได้ระดมความคิดเห็นร่วมกับสมาคมเภสัชกรจังหวัดชลบุรี สมาคมผู้ประกอบการร้านขายยาจังหวัดชลบุรี มีมติเลือกใช้โมเดลที่หนึ่ง โดยให้ผู้ป่วยรับยาที่แผนกเภสัชกรรมในครั้งแรกก่อน ครั้งต่อไปจึงรับยาที่ร้านยาคุณภาพใกล้บ้าน
กระบวนการในการคัดเลือกร้านขายยาทางโรงพยาบาลมีคณะกรรมการพิจารณา ในช่วงแรกคัดเลือกร้านยาคุณภาพแล้ว 4 ร้าน ตั้งเป้าหมายคัดเลือกไว้ 29 ร้าน ซึ่งเปิดรับสมัครถึง 31 มี.ค. 2563 หลังจากคัดเลือกร้านขายยาเข้าโคงการแล้ว ทางสภาวิชาชีพเภสัชกรรมอบรมร้านขายยาให้แล้วในรุ่นแรก สำหรับผู้ป่วยได้ชี้แจงให้ผู้ป่วยทราบและลงนามยินยอมรับยาครั้งต่อไปที่ร้านขายยาในโครงการที่อยู่ใกล้บ้านหรือใกล้ที่ทำงาน จัดยาให้รับประทานได้ประมาณ 1 เดือน ขณะนี้ทางโรงพยาบาลชลบุรีกำลังเก็บรวบรวมข้อมูลการรับยาของผู้ป่วยว่ามีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นหรือไม่ “ หากเจอปัญหา เช่น ความดันโลหิตสูงขึ้น จะมีการสื่อสารมายังโรงพยาบาลชลบุรีว่า จะมีการปรับยาให้ผู้ป่วยอย่างไร” ดร.พญ.สุชาดา อโนทยานนท์ รอง ผอ.รพ.ชลบุรี กล่าว


“จังหวัดชลบุรี มีผู้ประกอบการร้านขายยามาก 1200 กว่าร้าน เป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพมหานคร สภาวิชาชีพเภสัชกรรมกำหนดเกณฑ์มาตรฐานร้านขายยา เป็นการสร้างมั่นใจให้ผู้ป่วยที่สมัครใจรับยาที่ร้านขายยา นโยบายนี้เป็นนโยบายที่ดีที่สร้างสรรค์ จะช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาลได้และผู้ป่วยมีความพึงพอใจต่อนโยบายนี้ ที่ผ่านมาพบปัญหาการรับประทานยาของผู้ป่วย เช่น รับประทานยาไม่ครบถ้วน ไม่ครบกำหนด มียาเหลือ ทางเภสัชกรร้านขายยาช่วยแนะนำแก้ไข อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจ” ภก.ชัยรัตน์ กรรมการสมาคมร้านขายยาจังหวัดชลบุรี กล่าว

“ ในนาม สปสช.เขต 6 ระยอง ที่รับผิดชอบต่อนโยบายนี้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ขับเคลื่อนนโยบายลดความแออัดในโรงพยาบาลภาครัฐ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา มีร้านขายยาเข้าร่วมโครงการ 19 ร้านใน 4 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ ชลบุรี ระยองและจันทบุรี อีก 4 จังหวัดกำลังทยอยเข้าร่วมโครงการ มีวัตถุประสงค์เพื่อลดความแออัดในโรงพยาบาล เพิ่มร้านยาคุณภาพ ลดภาระของโรงพยาบาลขนาดใหญ่ คาดว่าได้รับการตอบรับจากร้านขายยาที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน GPP ทำให้ผู้ป่วยได้รับยาและบริการที่มีคุณภาพ รับยาฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งบริการแก่ผู้ป่วยที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ผู้ป่วยที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่แพทย์ผู้ทำการรักษา” นพ.พีระมน กล่าวในที่สุด

นอกจากนี้ คณะสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่ที่คลินิกหมอครอบครัว ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองชลบุรี และร้านขายยาสมนึกเภสัช ดูความเชื่อมโยงของการรับบริการของผู้ป่วย รวมถึงสอบถามความพึงพอใจของเภสัชกรร้านขายยาและผู้ป่วยที่รับยาที่ร้านขายยาด้วย.