หนี้สินครู คนวงการศึกษา กว่า 80% ที่แบกรับ เป็นปัญหาที่ฝังลึก สะสมมานาน และเพิ่มมากขึ้น จำนวนบุคลากรทางการศึกษา กว่า 9 แสนคน ที่ตกอยู่ในวังวน ต้องเผชิญกับชะตากรรมแบกรับหนี้สิน ที่ตัวเองสร้างขึ้น นับเป็นกลุ่มอาชีพที่มีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก
แม้รัฐบาลมีนโยบายให้ความสำคัญ แก้ไขปัญหา หนี้ มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการคลัง กรมส่งเสริมสหกรณ์ รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหา
ปี 2564 รัฐบาลให้เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สิน ให้ข้าราชการโดยเร่งด่วน เพื่อลดความเดือดร้อน พุ่งเป้าให้ครูได้ชำระหนี้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ หรือการรวมหนี้ไว้ในสถาบันการเงินที่เดียว กำหนดมาตรการที่เหมาะสมกับการผ่อนชำระหนี้ของครูให้ได้มากที่สุด
ปี 2565 รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาช่วยแก้ไขปัญหา ตามวาระแห่งชาติการแก้ปัญหาหนี้สินข้าราชการ ที่กำหนดขึ้น รวมภาระหนี้ 1.4 ล้านล้านบาท
ปลายปี 65 มีการเรียกร้องจากเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้ออกมารณรงค์ให้ครูทั่วประเทศที่ถูก หักเงินเดือนหน้าซองจนเหลือเงินใช้ไม่ถึง 30% ต่อเดือน ออกมาโชว์ ‘สลิปเงินเดือน’ ของตน ผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อสะท้อนให้รัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องรับรู้ถึงปัญหา
เรียกร้องให้นายจ้าง คือกระทรวงศึกษาธิการ สั่งการให้มีการบังคับใช้ระเบียบ ว่าด้วยการหักเงินเดือน เพื่อการชำระหนี้สวัสดิการและสหกรณ์ปี 2551 อย่างเคร่งครัด ที่สะท้อน ความรุนแรงของปัญหา อยู่ในปัจจุบัน
ปัจจุบัน ศธ.เข้ามากำกับ ได้กำหนดให้มีสถานีแก้หนี้ครู 558 สถานี ในระดับจังหวัด ตลอดจน พื้นที่การศึกษา และหน่วยงาน ที่เป็นผู้หักเงิน ณ ที่จ่าย รับทราบ พร้อมขับเคลื่อนในการแก้ไขปัญหา เร่งดำเนินปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ ให้เกิดเป็นรูปธรรม
เพื่อให้ครูทุกคนได้รับการดูแลช่วยเหลือแก้ไขปัญหา หนี้ ได้อย่างทั่วถึง มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างมีศักดิ์ศรี อันจะส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษาและคุณภาพสังคม
สหกรณ์ออมทรัพย์ครู เจ้าหนี้รายใหญ่ ทั้ง สกสค. ไม่นับรวมธนาคาร สถาบันการเงินอื่น ที่ยื่นข้อเสนอให้กู้ กันง่ายๆ
โฆษณาถี่ยิบ ทั้งทางตรง ทางอ้อม มองครูเป็นแมงม่าว
การบริหารของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อวงจรชีวิตครูและบุคลากร จึงเป็นกลไกสำคัญ ในกระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้สิน
ทำไงที่จะลด ดอกเบี้ย ที่นับว่าสูงอยู่ ขณะที่แต่ละสหกรณ์ มีเงินเหลือสะพัดนับ พันล้านบาท
สิ้นเดือนที่ผ่านมา พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมต.ศธ. เป็นประธานเปิดการสัมมนา ส่งเสริมความร่วมมือและสร้างความเข้าใจการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา พร้อมผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก และที่สำคัญ ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการ เกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ พร้อมด้วยประธานกรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศ กระทั้ง ผอ.เขต พื้นที่การศึกษา 245 เขต
วันนี้มีการนำร่องความร่วมมือ ระหว่างธนาคารออมสินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดกาญจนบุรี โดยการให้ดอกเบี้ยสินเชื่อในการรวมหนี้ ในอัตราร้อยละ 2.88 ต่อปี ในวงเงิน 2,000 ล้านบาท เนื่องจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจำนวนหนึ่งอาจมีหนี้หลายที่ และมีอัตราดอกเบี้ยสูง การรวมหนี้มาไว้ที่เดียวในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ลงจึงเป็นการแก้ไขปัญหาที่ดี
ก็พยายามหาแหล่งสินเชื่ออยู่ โดยตนได้ขอดอกเบี้ยประมาณร้อยละ 2 ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งถ้าได้จะทำให้สหกรณ์ฯ สามารถไปบริหารจัดการลดดอกเบี้ยให้ครูฯได้อย่างเป็นรูปธรรม รมต.กล่าว
ดร. ภูมิ พระรักษา ในฐานะประธานคณะทำงาน ตามคำสั่ง สพฐ. มอบหมาย กล่าวว่า ได้วางแผน และดำเนินการพัฒนา “ระบบแก้หนี้ออนไลน์ สพฐ. : DEBT OBEC” หลักเพื่อใช้เป็นระบบการรวบรวมข้อมูลของครูและบุคลากรสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ที่สมัครใจลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้สิน ทั้งนี้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 245 แห่ง ทั่วประเทศ ในฐานะสถานีแก้หนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษา และ สพฐ. สามารถใช้ในการบริหารจัดการ ดูแลช่วยเหลือครูและบุคลากร เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินให้ครูและบุคลากรอย่างชัดเจน รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
ขอเชิญผู้สมัครใจสามารถลงทะเบียน 6 ขั้น ดังนี้ 1) เข้าเว็บไซต์ debtclinic.obec.go.th หรือ แอดไลน์ OA: @828oeycc 2) เข้าสู่ระบบด้วยบัญชีไลน์ 3) ยื่นคำขอเข้าร่วมโครงการ 4) ยอมรับเงื่อนไขและกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน 5) อัปโหลดไฟล์เอกสารตามที่ระบบร้องขอ และ 6) ตรวจสอบความเรียบร้อย กด “เสร็จสิ้นและยื่นคำขอ” และในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีคู่มือการดำเนินงาน ตามลิ้งค์ drive.google.com/file/d/1hzsJks_p_8qIl4CqyZil7O1yzDajgMMI/view
ซึ่งสามารถตรวจสอบ ควบคุม จัดกิจกรรม กำหนดแนวทางดำเนินงาน ติดตาม ประสาน เจรจา และการบริหารจัดการช่วยเหลือครูและบุคลากร รวมถึงการพัฒนาสมรรถนะทางการเงิน และขยายผลไปสู่การพัฒนานักเรียนทุกคนให้มีสมรรถนะทางการเงิน พร้อมดำเนินชีวิตในโลกอนาคตต่อไป
ปัจจุบัน “ ระบบแก้หนี้ออนไลน์ สพฐ. : DEBT OBEC ” สามารถแก้ไขหนี้สินให้กับครูและบุคลากร สพฐ. แล้วเสร็จ 680 ราย จากที่ลงทะเบียนไว้ 7,908 ราย มูลค่าหนี้ที่แก้ไขได้รวม 2,040 ล้านบาท
ทั้งนี้จะมีการประเมินและพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ระบบมีประสิทธิภาพพร้อมใช้แก้ไขปัญหาหนี้สินให้ครูและบุคลากรทุกคนมีขวัญกำลังใจ มีความสุข สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาเยาชนและคุณภาพการศึกษาต่อไป