29 C
Samut Prakan
Sunday, September 8, 2024
spot_img

ข่าวใหม่ล่าสุด

spot_img

จบยาก 

ปัญหานักเรียนอาชีวะยกพวกทุบตีหว่างสถาบันจนเป็นเหตุ  เจ็บ ตาย มีการพัฒนา 40 กว่าปี สมัยก่อนก็แค่ ชกต่อย ใช้อุปกรณ์การเรียน เป็นส่วนมาก อีกยุคก็มีระเบิดปิงป๋อง ระเบิดขวด ทำเองกับมือ ทำให้เสียอนาคต เสียชีวิต 

      ยุคนี้เล่นของแรง ใช้อาวุธมีด ปืน ระเบิด เป็นหลัก เอากันถึงตาย คนอื่นไม่รู้เรื่องด้วยก็พลอยจบชีวิต อย่างกรณีครู โรงเรียนเอกชนรายหนึ่งถูกลูกหลง จนเสียชีวิต

      ประเพณี “รับน้อง” และปัญหาความรุนแรงอีกอย่างที่วนเวียนกลับมาเป็นประเด็นสังคมอยู่บ่อยครั้ง มักถูกตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการมีอยู่ของกิจกรรมดังกล่าวในทุกๆ ครั้งที่เกิดข่าว

       “รับน้องโหด” ซึ่งสะท้อนสภาพความรุนแรงของกิจกรรม

      จากหลักฐานพบว่า  ทำเป็นขบวนการ มีกลุ่มไลน์ของนักเรียนซึ่งเป็นรุ่นพี่มีการแชท line ถึงนักศึกษารุ่นน้อง มีการบังคับ ชักชวนในกลุ่มไลน์  ถามกันเป็นระยะ ต้องถ่าย คลิปให้ดูว่า ทำอะไร อยู่บอกกันเป็นขั้นตอน เชื่อถือ ให้ความเคารพรุ่นพี่ยิ่งกว่า พ่อแม่ 

      อย่างกรณีล่าสุดของการรับน้องที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นกับนักศึกษาชั้น ปวส.ปีที่ 1   เป็นนักเรียน ของวิทยาลัยเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ ย่านลาดพร้าว สองราย วัย 18 และ 23 ปี

      นัดไปกันที่ ซอยพระรามเก้า 15 เขตห้วยขวาง  เมื่อคืนวันที่ 23 มิย. เวลา 21.00 น ทำกิจกรรมที่รุนแรง รุ่นพี่ทำร้ายร่างกาย จนอาการสาหัส 

       ผู้ปกครองถามว่าไปทำอะไรมา กลับปกปิด บอกว่ารถล้ม เมื่ออาการไม่ดี ถูกนำส่งโรงพยาบาล ที่สะทือนใจเมื่อ หมอบอกผู้ปกครองว่า  ขอให้ทำใจ แสดงถึงความรุนแรง บาดเจ็บภายใน  จนเกิดอาการไตวาย ฉี่เป็นเลือด 

       แน่นอนว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก และอาจไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ผลลัพธ์ของการรับน้องที่รุนแรง บานปลาย และแลกมาด้วยความรุนแรง ” ชีวิต ” ชนิดที่ผู้จัดกิจกรรม หรือ ผู้กระทำความผิด ไม่อาจชดเชยแก่ครอบครัวเหยื่อได้   ไม่ว่าจะกราบเท้าขอขมากี่ครั้งก็ตาม

      ผู้ปกครองของ  นายอิสระพงษ์  ผู้ได้รับบาดเจ็บขณะนี้พักรักษาตัวที่โรงพยาบาล และ ได้ยืนยันจะดำเนินคดีกับรุ่นพี่และผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด 

      ถ้าเป็นลูกหลานของคุณจะทำอย่างไร อย่าคิดแค่ เมื่อถึงศาลแล้วก็แค่ เยาวชน  โทษทัณฑ์ เบา ความเจ็บปวดของผู้ปกครอง คือความหวังของครอบครัว  ที่สูญเสีย 

      หลังเกิดเหตุ รุ่นพี่รับน้องโหด ทำร้ายร่างกายสาหัส จนผู้ต้องหารีบเข้ามอบตัวกับตำรวจ ประกอบด้วย  -นักศึกษาชั้น ปวส.ปีที่ 2 ของ วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ จำนวน 4 คน    1.นายปณิธาน (โน่)  อายุ 19 ปี   2.นายวุฒิพร (บอส)  อายุ 21 ปี   3.นายอิรฟาน (ฟาน)  อายุ 20 ปี   4.นายทวิภัทร (โอ๊ต)  อายุ19 ปี 

      ตำรวจเอาโทรศัพท์ จากผู้บาดเจ็บเพื่อตรวจสอบ เมื่อส่งคืนกลับมีการลบภาพไปบางส่วน  เหมือนจงใจ ลบภาพที่อาจนำไปสู้หลักฐานความผิดหรือไม่

      ตำรวจ ก็เป็นกาวใจสื่อกลางช่วยไกล่เกลี่ย เพื่อจะได้จบคดีแค่โรงพัก ติดต่อประสานญาติผู้บาดเจ็บโดยอ้างว่าทางผู้ทำร้าย จะยอมชดใช้ค่าเสียหาย 

      ปัญหานี้น่าจะแก้ยาก เพราะการไม่เอาจริงจังของผู้รับผิดชอบ เงียบได้เป็นดี ผู้มีอำนาจหน้าที่ ผู้ปกครองเป็นเสียเอง รักลูก กลัวลูกจะติดคุก อาศัยบารมี ใช้เงินเป็นตัวช่วยจบคดี

      ขณะเดียวกันทางผู้เสียหายอีกราย ไม่ยอมเจรจาด้วยโดยมีเหตุผลว่าสุขภาพจิตยังไม่พร้อมที่จะรับข้อมูลอะไรต่างๆ ปัญหาคือผู้บาดเจ็บยังอยู่ในอาการอันตรายยังหวาดกลัว

      สิ่งที่พบ ขณะนี้บางวิทยาลัย ไม่ดำเนินการตามกฎระเบียบอย่างจริงจัง อาจเพราะห่วงผลประโยชน์ 

      จะเห็นได้ว่าบางสถาบัน มีนักศึกษาอยู่ไม่ถึง 100 คน แต่ยังบริหารจัดการ โดยเอาเด็กภายนอกมาใช้ชื่อหรือเด็กภาคีเข้ามาใส่ไว้ เพื่อหวังค่าหัว นับ หมื่นบาทต่อคน แถมค่าอืนๆที่เก็บได้

      ปัญหานี้ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของ สอศ. แม้กระทั่งเจ้ากระทรวงเองจะดำเนินการอย่างไร ที่จะแก้ปัญหาให้เป็นจริงจัง

     อย่าเงียบ เพราะสถาบันการศึกษา จำนวนนักเรียนลดต่ำลงทุกวัน  ยุคการศึกษาไร้พรมแดน ไม่ต้องพึ่งใบประกาศ 

     อาศัยทักษะฝีมือเพิ่มมากขึ้น  

 

เพิ่มเพื่อน Line Official

spot_img

ข่าวใหม่ล่าสุด

ข่าวเด็ด ห้ามพลาด