กรมศุลกากรจัดพิธีทำลายของกลางที่คดีถึงที่สุด มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 60 ล้านบาท
วันนี้ (วันพุธที่ 10 กันยายน 2568) นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร เป็นประธานในพิธีทำลายของกลางที่คดีถึงที่สุด
พร้อมด้วย นางนันท์ฐิตา ศิริคุปต์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร นายยุทธนา พูลพิพัฒน์ รองอธิบดีกรมศุลกากร นายนิติ วิทยาเต็ม รองอธิบดีกรมศุลกากร นายคณิต มีปิด รองอธิบดีกรมศุลกากร นายภาคภูมิ เลิศวัฒนารักษ์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม นางสาวเขมะศิริ นิชชากร ผู้อำนวยการกองป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร้อยตำรวจโท ภลลภ เพ็ชรรุ่ง รองผู้อำนวยการกองคดีทรัพย์สินทางปัญญา กรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งของกลางที่จะนำไปทำลาย ประกอบด้วย วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (กัญชา) สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า เลื่อยโซ่ยนต์ รวมของกลางทั้งสิ้น จำนวน 758,021 ชิ้น และของกลางประเภทกัญชา 234,800 กรัม มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 60 ล้านบาท ณ ห้องโถง อาคาร 1 กรมศุลกากร
นายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า ตามที่ รัฐบาลและกระทรวงการคลัง มีนโยบายให้กรมศุลกากรเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าที่บิดเบือนกลไกทางการค้า รวมถึงสินค้าที่เป็นอันตรายต่อสังคม
โดยของกลางทั้งหมด เป็นของกลางในคดีที่กรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจยึด – จับกุมตามกฎหมายศุลกากร และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท (กัญชา) สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า เลื่อยโซ่ยนต์ รวมของกลางทั้งสิ้น จำนวน 758,021 ชิ้น และของกลางประเภทกัญชา 234,800 กรัม มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 60 ล้านบาท
ขณะนี้ การดำเนินการทางคดีได้ถึงที่สุดและของกลางตกเป็นของแผ่นดินตามกฎหมายแล้ว กรมศุลกากร มีกำหนดการนำของกลางดังกล่าวไปทำลายโดยวิธีการเผาทำลาย ณ โรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยหนองแขม ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของบริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด และเหยียบ ทับ พร้อมกำจัดซากด้วยการฝังกลบและการเผาโดยใช้เตาเผาอุตสาหกรรม ณ บริษัท โกลเด้นดีพ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันที่ 10 – 11 กันยายน 2568 ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะเข้าสังเกตการณ์ในการทำลายของกลางดังกล่าว เพื่อมิให้ของกลางดังกล่าว ซึ่งผิดกฎหมายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนกลับคืนสู่สังคมได้อีก
อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวอีกว่า กรมศุลกากรขอเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่น รวมถึงปกป้องสังคมจากสินค้าที่เป็นอันตรายต่อประชาชน เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีระบบการค้าที่เป็นธรรม สังคมน่าอยู่ปลอดจากสินค้าที่อันตรายต่อสุขภาพ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีสืบไป