ทุกปี เดือนกันยายนมักจะเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและน้ำตา สำหรับแวดวงการศึกษา เพราะเป็นวาระที่ครูและบุคลากรทางการศึกษาหลายท่านก้าวเข้าสู่การเกษียณอายุราชการ การเปลี่ยนผ่านจากชีวิตการทำงานที่ยาวนาน สู่ชีวิตใหม่ที่มีคำว่า “เวลา” เป็นของขวัญ
ปี ๒๕๖๘ นี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต ๑ ได้จัดพิธีเกษียณอายุราชการอย่างงดงาม โดยมี นางสุภิญญา วงศ์นาม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรปราการ เขต ๑ เป็นประธานมอบเกียรติบัตรแด่ผู้เกษียณทุกท่าน
ภาพที่ปรากฏต่อสายตาคือความอบอุ่น ความภาคภูมิใจ และความผูกพันที่สั่งสมมายาวนาน
แต่สิ่งที่มากกว่าพิธีการ คือ “ความหมาย” ที่สังคมต้องหันกลับมามอง ครูแต่ละคนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้มีเพียงตำแหน่งหน้าที่
แต่คือประวัติศาสตร์ของห้องเรียนเล็ก ๆ คือผู้สร้างเด็กนับไม่ถ้วนให้กลายเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม
คำว่า “เกษียณอย่างแบบเกษม ” ไม่ใช่เพียงสำนวนสวยหรู หากแต่คือปรัชญาแห่งการใช้ชีวิต
ครู ที่ทุ่มเททำงานทั้งชีวิตย่อมคู่ควรกับการได้รับความสงบและความสุขในบั้นปลาย
แต่คำถามที่เราควรถามคือ >สังคมของเราดูแลครูหลังเกษียณได้เพียงพอแล้วหรือยัง?
ในวันที่ครูก้าวลงจากเวทีราชการ ชีวิตหลังเกษียณอาจมีทั้งความสุขและความว่างเปล่า การมีระบบสวัสดิการที่มั่นคง กองทุนที่มั่นใจได้ รวมทั้งการสร้างพื้นที่ให้ครูยังคงมีบทบาทในชุมชน
มิใช่มีแต่ใบ Slip หักหนี้ จากสหกรณ์ตามหลัง
จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องขบคิด เพราะ “ความรู้” และ “ประสบการณ์” ของครูไม่ควรหายไปพร้อมกับวันเกษียณ
งานพิธีเกษียณจึงไม่ควรถูกมองเป็นแค่การส่งครูขึ้นเวทีรับเกียรติบัตร แต่ควรเป็นเครื่องเตือนใจเราทุกคนว่า การศึกษาที่แท้จริงต้องให้เกียรติครูทั้งก่อนและหลังเกษียณ
ต้องสร้างระบบที่ให้ครูดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรี จึงจะเรียกว่า “แบบเกษม สำราญใจ” อย่างแท้จริง
ในท้ายที่สุด ครูอาจไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าการเห็นศิษย์เติบโตเป็นคนดี และการได้รับการยอมรับจากสังคมว่า “ท่านคือผู้ให้โดยแท้จริง”
ก่อนจบก็จะบอกว่า สพป.สป.เขต ๑ มีผู้ที่เกษียณ ๓๗ ราย เป็นบุคลกรประจำเขต ๓ ราย ผู้บริหาร ๕ ราย ครู ๒๒ จำนวน เจ้าหน้าประจำ ๗ ราย
โชคดีครับครู เจอกันอีกที วันที่ ศิษย์ รู้คุณ