สปสช.เขต 6 อปสข. รับทราบ ผลการดำเนินงาน ติดตาม 30 บาท บัตรใบเดียว หลักเกณฑ์การบริหารกองทุนตามความจำเป็นในบริบทของแต่ละเขตพื้นที่ (Payment) ห่วงผู้ป่วยจิตเวช เพิ่มสูงชี้น
วันที่ 3 เมษายน 2567 ที่ห้องประชุมสำนักงาน สปสช.เขต 6 ระยอง ประชุมคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพ (อปสข) เขต 6 ระยอง โดยนายแพทย์ปัญญา กีรติหัตถยากร เป็นประธานการประชุมนายแพทย์สุรทิน มาลีหวล ผอ.สปสช.เขต 6 พร้อม อปสข. ที่เข้าประชุมผ่านระบบออนไลน์ ออนไซต์
ที่ประชุมเห็นชอบข้อเสนอหลักเกณฑ์การบริหารกองทุนตามความจำเป็นในบริบทของแต่ละเขตพื้นที่ (Payment) ปี 2568 โดยรวบรวมข้อเสนอจาก อปสข. อคม. หน่วยบริการ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ องค์การบริหารส่วนจังหวัด ศูนย์วิชาการ
คณะทำงานพัฒนาระบบบริการสุขภาพ (Service plan) เขตสุขภาพที่ 6 สาขาต่าง ๆ เพื่อใช้ประกอบการจัดทำข้อเสนอเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาในการประชุมผู้บริหารเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติต่อไป
ในที่ประชุม รับทราบความก้าวหน้าการดำเนินงานตามนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” จังหวัดสระแก้ว ตั้งแต่วันที่ 1-31 มีนาคม 2567 จำนวนข้อมูลผู้รับบริการรวม 47,282 ราย จากหน่วยบริการ 103 แห่ง ผ่านการตรวจสอบเบื้องต้น 41,102 ราย (ร้อยละ 86.92 )ผ่านระบบตรวจสอบก่อนจ่าย On Screen review 5,502 ราย (ร้อยละ 13.08) จำนวนเงินจ่ายชดเชยรวม 19,774,820 บาท
อนุกรรมการฯ ได้มีข้อเสนอให้มีการกำกับติดตามการใช้บริการ OP walkin ข้ามเขต ข้ามจังหวัด ข้าม CUP มีความแตกต่างจากก่อนเริ่มนโยบายหรือไม่ และการใช้บริการของประชาชน ณ หน่วยบริการนวัตกรรม เช่น คลินิกพยาบาล ร้านยา คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกเทคนิคการแพทย์ คลินิกทันตกรรม คลินิกเวชกรรม เพิ่มขึ้นจากเดิมหรือไม่ และส่งผลลดความแออัดหรือลดระยะเวลาการรอคอย ในหน่วยบริการภาครัฐหรือไม่
ที่ประชุมยังได้รับทราบการดำเนินการ เพื่อเดินหน้าระดมความเห็น 9 ประเด็นตามข้อบังคับ พร้อมเพิ่มประเด็น
“ยกระดับ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว” เน้นสร้างการมีส่วนร่วมผู้รับบริการ ผู้ให้บริการ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด เริ่มตั้งแต่ เมษายน -มิถุนายนนี้ เพื่อขับเคลื่อน “กองทุนบัตรทอง”
นพ.ปัญญา กีรติหัตถยากร ประธาน อปสช. กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพูดถึงเรื่องระบบสุขภาพด้านผู้ป่วยจิตเวช ซึ่งขณะนี้ในเขต 6 ระยองทั้ง 8 จังหวัด มีผู้ป่วยจิตเวชเพิ่มมากขึ้นจากการที่ได้งบประมาณ700-800 รายต่อปี แต่ผู้ป่วยจริงนั้นอยู่ที่ประมาณ 25,000 คน อยู่ในระดับอัตราเสี่ยงสูงเกี่ยวกับผู้ป่วยจิตเวช
นอกจากนี้งบประมาณการจ่ายให้ผู้ป่วยจิตเวชนั้นอาจจะไม่เพียงพอ จากการที่ได้รับจากสำนักงาน สปสช.มาดูแลในเขต 6 ระยอง
ขณะที่ประธาน อปสข.กล่าวว่าย้ำ ปัญหาผู้ป่วยจิตเวชในเขต 6 นั้นเป็นประเด็นหลักที่อนาคตจะต้องดำเนินการซึ่งทราบว่าผู้ป่วยที่มาจากพื้นฐานเรื่องของยาเสพติด เรื่องของสารเสพติด ไม่ว่าพืชกระท่อม น้ำกัญชา ที่อาจเปลี่ยนผู้ป่วยปกติ ให้เป็นผู้ป่วยจิตเวช และสร้างปัญหามากขึ้นในอนาคต ทาง สปสช. เขต 6 จะต้องทำเรื่องนี้ เพื่อที่จะมาดูแลผู้ป่วยทางด้านนี้มากขึ้น โดยที่จะขออนุมัติงบเพิ่มเติมจากที่เคยได้รับให้เหมาะสมกับผู้ป่วยในเขตพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในอัตราสูงกว่าที่อื่นๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในที่ประชุมได้มีการพูดถึงเรื่องผู้ป่วยจิตเวช ในเขต 6 ระยอง ที่มีอัตราส่วน อยู่ราว 25,000 ราย ที่ สปสช.รับผิดชอบอยู่ มีการทำร้ายผู้อื่นหรือคนใกล้ตัวทำให้เสียชีวิตและบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้งจนเป็นเหตุให้สารเสพติดที่มีการอนุญาตจากรัฐบาลไม่ว่า กระท่อม ใบกัญชา อาจเป็นสิ่งหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของสารเสพติด ที่ก่อให้เกิดอันตราย
วันนี้ได้เห็นผลแล้วว่าจากการที่รัฐบาลได้อนุมัติให้พืชกระท่อม พืชกัญชาเกิดแบบเสรี แต่ไม่มีการวางแผนล่วงหน้าว่าจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร มันสะท้อนถึงความจริงคิดทำ แต่ไม่คิดแก้ไข อนาคตคนไทยที่ สปสช. รับผิดชอบกว่า 47 ล้านคน ใช้งบประมาณจาก สปสช.จะดำเนินการอย่างไร งบประมาณต่างๆ ที่ทางรัฐบาลอนุมัติให้ สปสช.จะเพียงพอต่อการเยียวยาผู้ป่วยหรือไม่ อาจจะต้องมีเงินจำนวนมากที่เข้ามาดูแลผู้ป่วยด้านจิตเวชที่สูงเป็นพิเศษกว่าผู้ป่วยสาขาอื่นๆ
ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการกล่าวในเรื่องนี้และฝากให้ ท่านอนุกรรมการรับทราบปัญหาสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะหาทางป้องกันสิ่งเหล่านี้ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตต่อไป
โดยก่อนหน้าเรื่องนี้ นพ. ชลน่าน รมว.สธ. ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ เตรียมจะให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดอย่างเดิมว่า เป็นมุมมองของนายกรัฐมนตรี แต่นโยบายที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับกัญชา ก็พูดชัดเจนว่า กัญชาถ้าจะเอามาใช้ก็ต้องเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น ส่วนในมิติทางเศรษฐกิจ ที่เกี่ยวข้องก็ต้องเกี่ยวกับการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งเป็นนโยบายหลักรัฐบาล ต้องปฏิบัติตามส่วนข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ในขณะนี้
