26 C
Samut Prakan
Thursday, September 19, 2024
spot_img

ข่าวใหม่ล่าสุด

spot_img

ผู้รับเหมา บุก ป.ป.ช.ยื่นสอบ เลขาอาชีวะ ถามข้องใจให้ ผอ.กลับรับราชการ หลังอัยการส่งฟ้อง จากถูกบุกจับสด คดีอาญา ก่อนหน้า ถูกสักพัก ให้ออกไว้ก่อน

 

วันที่ 23 เมษายน ที่สำนักงาน ป.ป.ช.จังหวัดนนทบุรี  นางประภัสสร ม่วงทิพย์ นำหนังสือ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้สอบ เลขาอาชีวะ ข้องใจให้ ผอ.ได้กลับรับราชการ จากถูกบุกจับสด อัยการส่งฟ้องคดีอาญา ก่อนหน้าอดีตเลขาฯ ออกคำสั่ง พัก ให้ออกราชการไว้ก่อน

       สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา ขณะดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้  สั่งพักราชการและสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน   คำสั่งสำนักงานอาชีวะ ที่  584/2566 ลงวันที่ 31 มีนาคม 2566 ให้พักราชการ นายเพชรโยธิน ราษฎรเจริญ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ขณะนั้น  เพราะเหตุ ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ความผิดฐานเรียกรับสินบนเพื่อแลกกับการตรวจรับงานจ้าง และสั่งอนุมัติจ่ายเงินค่าจ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ป.ป.ช ตำรวจ ลงพื้นที่จับกุมได้พร้อมเงินสดที่ห้องทำงาน 

       กระทั่งเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต ๑ ภาค ๑ ได้ยื่นฟ้องนายเพชรโยธิน ราษฎร์เจริญ ต่อศาลคดีอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค ๑ ในฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานรับสินบนและเป็นเจ้าพนักงานปฎิหน้าที่ราชการโดยทุจริตตามมาตรา 149 และ157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา  ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้องไว้แล้ว ปรากฎตามหนังสือสำนักงานอัยการคดีพิเศษฝ่ายปราบปรามการทุจริต ๑ ภาค ๑ ด่วนที่สุดที่ อส.0041(ปทภ ๑.๑)/217 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2567แจ้งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาตามที่ร้องขอ รายละเอียดปรากฎตามสำเนาหนังสือ 

       นายเพชรโยธิน ราษฎร์เจริญ จึงตกเป็นจำเลยคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท ๓๑/๒๕๖๗ โดยสมบูรณ์ และยังถือได้ว่าคำสั่งพักราชการยังมีผลสมบูรณ์ต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน เว้นแต่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนเท่านั้น

       แต่ปรากฎว่านายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาคนปัจจุบัน กลับออกคำสั่งให้นายเพชรโยธิน ราษฏร์เจริญ มาปฎิบัติราชการอีกครั้งที่วิทยาลัยเทคนิคธัญบุรี ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2567 และเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 นายเพชรโยธิน ราษฏร์เจริญ ได้ปฎิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการวิทยาลัย โดยเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารสถานศึกษาตามระเบียบวาระ

       วันที่ 22 มีนาคม 2567 นายยศพล เวณุโกเศศ ได้ออกคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ที่ 553/2567 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2567 อีกครั้ง ให้ย้ายและแต่งตั้งให้นายเพชรโยธิน ราษฎร์เจริญ ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพพระสมุทรเจดีย์ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ มีผลตั้งแต่ 1 เมษายน  2567  วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ รับเงินเดือนๆ ละ 58,430 บาท รับเงินค่าตอบแทนเดือนละ 5,600 บาท ดังรายละเอียดปรากฎตามเอกสาร

        ทำให้นายเพชรโยธิน ราษฎร์เจริญ เข้ามาปฎิบัติราชการในขณะทีถูกสั่งพักราชการ อาจได้รับสิทธิประโยชน์รับเงินเดือนและค่าตอบแทนย้อนหลัง ตั้งแต่เดือน เมษายน 2566 ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นจากเดิมเดือนละ 42,140 บาท เป็นเดือนละ 58,430 บาทและค่าตอบแทนวิทยฐานะเดือนละ 5,600 บาท โดยมิชอบด้วยระเบียบ ขัดต่อนโยบายในการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบของข้าราชการหรือไม่

         อาจเป็นช่องทางให้ข้าราชการที่ไม่ดีใช้อำนาจเงิน เป็นเครื่องมือซื้อขายตำแหน่งสูงขึ้นหรือไม่ ไปสร้างอิทธิพลให้ไม่ถูกลงโทษทางวินัย ละเว้นไม่รักษากฎ ระเบียบในการบริหารงานบุคคล ทำให้ราชการเสียหายอย่างร้ายแรง เสมือนส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการทุจริตและประพฤติมิชอบมีอำนาจและตำแหน่งหน้าที่ ในการกระทำการทุจริตกัน จนยากที่จะแก้ไขขจัดคนทุจริตและประพฤติมิชอบในที่สุด

         นางประภัสสร ม่วงทิพย์ ระบุในหนังสือร้องเรียนว่า  นายยศพล เวณุโกเศศ นอกจากมีความสนิทสนมกับนายเพชรโยธิน ราษฎร์เจริญ เป็นการส่วนตัว โดยมีอดีตเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาและอดีตผู้อำนวยการสำนัก เป็นบุคคลเชื่อมโยง 

         และยังเคยเห็นชอบตามที่ คณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ให้ความเห็นว่า ไม่มีมูลความผิดฐานรับเงินสินบนที่ถูก ตำรวจ ปปท.ป.ป.ช. บุกจับคาห้องทำงาน และเคยลงนามออกคำสั่งเพิกถอนคำสั่งพักราชการ ระหว่างสอบสวนวินัยร้ายแรงและสั่งให้ นายเพชรโยธิน  ราษฏร์เจริญ กลับมาปฎิบัติราชการมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง ขณะที่ดำรงตำแหน่งรองเลขาฯ 

         การจับกุมครั้งนั้น เจ้าหน้าพบเงินจำนวนหนึ่งในโต๊ะทำงาน มีการระบุของคณะกรรมการสอบสวนว่า เป็นเงินที่ นางประภัสสร บริจาคเข้ามา และครั้งนี้จึงสันนิษฐานว่าเป็นการออกคำสั่งต่างตอบแทนกันอีกครั้งหรือไม่

         และให้ตรวจสอบถึงการออกคำสั่งโดยมิชอบของนายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาว่า เป็นการปฎิบัติหน้าทีโดยมิชอบโดยทุจริตหรือไม่อย่างไร 

         การเข้าปฎิบัติราชการระหว่างถูกคำสั่งพักราชการและพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต ๑ ภาค ๑ ได้ยื่นฟ้องนายเพชรโยธิน ราษฎร์เจริญ  ได้แจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษาทราบแล้ว  มันชอบด้วยระเบียบ กฎหมายหรือไม่อย่างไร ทั้งนี้เพื่อรักษาไว้ถึงหลักธรรมาภิบาลในการบริหารงานบุคคลเป็นสำคัญ

          การร้องเรียนครั้งนี้ได้เข้ายื่นหนังสือจำนวน 3 แห่งคือ สำนักงาน ป.ป.ช. ,รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ, และศูนย์รับเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรมรัฐบาลสำนักนายกรัฐมนตรี

เพิ่มเพื่อน Line Official

spot_img

ข่าวใหม่ล่าสุด

ข่าวเด็ด ห้ามพลาด