สปสช.นำ อปสข.อคม. ภาคประชาชน พัฒนาศักยภาพ หนุนตรวจ เวชระเบียนผู้ป่วยใน ครบ 100% กันเบิกเกินจริง ชี้สามารถคืนเงินสู่กองทุนกลาง นำงบประมาณกลับเติมเต็มให้ รพ. สถานพยาบาล ที่ได้ต่ำกว่าความเป็นจริง ลดภาระของบกลางสนุนเสริม
เมื่อวันที่ 6 – 8 สิงหาคม 2568 ที่ห้องห้องประชุม โรงแรม Best western ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้จัดประชุมคณะอนุกรรมการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติระดับเขต และอนุกรรมการควบคุมกำกับมาตรฐานระดับเขต (อคม.) ผู้เข้าประชุมมาจากกลุ่มภาคกลางและตะวันออก คือ สปสช.เขต 4 สระบุรี สปสช.เขต 5 ราชบุรี สปสช. เขต 6 ระยอง และ สปสช.เขต13 กทม. ผู้เข้าประชุมทั้งหมด 71 คน เป็นอนุกรรมการ จากภาคประชาชน โดยมีนายนิมิตร์ เทียนอุดม กรรมการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นวิทยากรหลัก
ในที่ประชุมได้เสนอและสนับสนุน มาตรการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในการตรวจสอบความถูกต้องของเวชระเบียนและยอดเบิกจ่ายค่ารักษาผู้ป่วยใน (IP) ของโรงพยาบาลทุกแห่งในระบบ ปีงบประมาณ 2569 พร้อมข้อเสนอให้ขยายการตรวจสอบจากเดิมสุ่มเพียง 3% เป็นครอบคลุม 100 %
ระบุว่า มาตรการนี้จำเป็นต่อการรักษาสมดุล ระหว่างงบประมาณกับบริการจริง และช่วยสร้างความเป็นธรรมให้กับระบบหลักประกันสุขภาพ โดยเงินที่เรียกคืนจากโรงพยาบาลที่เบิกเกินจริง จะนำเข้าสู่กองทุนรวมผู้ป่วยในระดับเขต (Global IP เขต) เพื่อนำไปเติมให้กับหน่วยบริการที่เบิกต่ำกว่าบริการจริง
หากไม่ใช้ผลตรวจสอบ อาจต้องของบกลางเพิ่มสูงถึง 5,609 ล้านบาท แต่หากขยายการตรวจสอบเป็น 100% จะเหลือเพียง 2,061 ล้านบาท อีกทั้งยังป้องกันการเอาเปรียบในเขตเดียวกัน ซึ่งจากข้อมูลพบว่า โรงพยาบาล 955 แห่งจะถูกปรับลดงบประมาณลง และอีก 170 แห่งจะได้รับเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ กลุ่มฯ อปสข.และ อคม. ยังเสนอให้ สปสช. จัดหาคนกลางศึกษาผลของการตรวจสอบ ว่ามีผลต่อการกำกับการเบิกจ่ายอย่างไร มีความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากความผิดพลาด หรือตั้งใจเบิกเกิน โดยที่ประชุมยึดมั่นในการปกป้องเงินจากภาษีของประชาชนทุกคน ด้วยสร้างความเป็นธรรมในระบบสุขภาพ และประกาศล่วงหน้าให้ชัดเจนว่า ปีงบประมาณหน้า 2569 จะขยายผลตรวจสอบ จาก 3% เป็น 100% เพื่อให้ทุกฝ่ายเตรียมพร้อม