back to top
29.4 C
Samut Prakan
Monday, August 25, 2025
spot_img

ข่าวใหม่ล่าสุด

spot_img

Daily Times Online เลขาเมาไม่ขับฯ ยันเมาไม่เป่าอย่าคิดว่ารอด ชี้ยุคสื่อดิจิตอลมาไวเครมไว คนดังยิ่งกร่างยิ่งเจ็บ !

เลขาเมาไม่ขับฯ ยันเมาไม่เป่าอย่าคิดว่ารอด ชี้ยุคสื่อดิจิตอลมาไวเครมไว คนดังยิ่งกร่างยิ่งเจ็บ !

เมื่อวันที่ 25 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้เปิดเผยถึงกรณีดาราสาวขับรถขณะเมาสุราแล้วไม่ยอมตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 เวลา 03.00 น.ณ ที่ผ่านมา ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง ว่า เรื่องนี้ไม่ว่าจะเมาหรือไม่เมา ต้องมีการตรวจระดับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด เพราะนี่คือประเด็นของการเกิดอุบัติเหตุที่ต้องได้มีการปรับแก้ให้เป็นกฎหมาย เกิดอุบัติเหตุทุกครั้ง มีคนเจ็บ หรือมีคนเสียชีวิตต้องวัดระดับแอลกอฮอล์ ที่ผ่านมาเรื่องนี้ถูกปล่อยให้เป็นเรื่องดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ หรือไม่เป่าก็ได้ ตามปกติระดับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจะค่อยๆลดลงทุก 1 ชั่วโมง 15 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และค่อย ๆ ลดไปเรื่อย ดังนั้นทางมูลนิธิเมาไม่ขับได้ทำหนังสือไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้อง 3 ข้อ ตั้งแต่ปี 2566 คือ

1. ทุกครั้งของการเกิดอุบัติเหตุต้องมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือด มิเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

2. หากเกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิต จะต้องได้รับโทษจำคุก 11-15 ปี จากเดิมจำคุก 3-10 ปี และ

3. สถานบริการต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย หากปล่อยให้ผู้มารับบริการดื่มภายในร้าน เมาแล้วขับ เพราะถือว่ามีความผิด.ซึ่งในฐานะที่ตนทำงานสนับสนุนการรณรงค์และการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 อยากบอกว่ายุคปัจจุบันต่างกัน เมื่อ 29 ปีที่แล้ว ในสมัยก่อนคนเมาแล้วปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์มีโทษความผิดแค่เพียงปรับไม่เกิน 1,000 บาท ฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงานไม่มีบทลงโทษในคดีอาญา แต่ปัจจุบันถ้าปฏิเสธการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ (เมาไม่เป่า ) มีบทลงโทษเท่ากับเมาแล้วขับ คือจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงขอเตือนไปยังพี่น้องประชาชนที่ยังมีพฤติกรรมเมาแล้วขับอยู่ ขอให้พินิจพิจารณาทุกครั้ง ถ้าจะไปงานเลี้ยงสังสรรค์ หรือกิจกรรมที่ต้องมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ขอให้งดการขับขี่ยานพาหนะอย่างเด็ดขาดใช้บริการรถสาธารณะ บริการยูดริ้งค์ ไอ ไดร์ บริการแกร๊ป หรือบริการไลน์แมน เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและเพื่อนร่วมทาง โดยเฉพาะบุคคลสาธารณะที่มีชื่อเสียง คนดัง ไฮโซ นักการเมือง ในสังคม พ.ศ.นี้ ไม่เหมือนในอดีต การแสดงอำนาจบาตรใหญ่ ใช้ความเป็นอภิสิทธิ์ชน เพื่อจะหลบเลี่ยงความผิด ทำได้ยาก เนื่องจากมีเทคโนโลยี กล้องหน้ารถ กล้องซีซีทีวี กล้องมือถือ สามารถบันทึกพฤติกรรมดังกล่าวได้ ซึ่งหลักฐานเหล่านี้เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ มีหลายคดีที่ศาลใช้หลักฐานเหล่านี้ลงโทษคนที่เมาแล้วขับสถานหนักโดยไม่รอลงอาญา

อย่าคิดว่าเป็นคนสาธารณะ คนที่มีชื่อเสียง ดาราหรือนักร้องชื่อดังต้องรับผิดชอบสังคม จะทำอะไรก็ได้ต้องเคารพกฎหมาย ยิ่งดัง ยิ่งเจ็บ ยิ่งไม่เป่า ยิ่งเจ็บ ที่สำคัญทางมูลนิธิฯจะทำหนังสือเตือนตนสังกัดของดาราสาวให้มีมาตราการลงโทษด้วยเพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ของเยาวชนและดาราท่านอื่นๆ และเรียกร้องให้ออกมาพร้อมกับเพื่อนชาย ขอโทษสังคมที่เมาแล้วขับ นายแพทย์แท้จริงกล่าว

เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ยังเปิดเผยอีกว่า ทางมูลนิธิเมาไม่ขับยังได้ข้อมูลเกี่ยวกับการปฏิเสธการเป่าวัดแอลกอฮอล์ในปี 2568 นั้น เพจตำรวจสอบสวนกลาง ระบุว่า หากผู้ขับขี่ที่ไม่ยอมเป่าาวัดระดับแอลกอฮอล์ ในร่างกายตามกฎหมาย จะถูกสันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นเมาเเล้วขับ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2542 ม.142 ซึ่งความผิดเมาเเล้วขับ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับตั้งแต่ 5,000 บาทถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งศาลจะสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2542 มาตรา 43(2) นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ไม่ยอมเป่าเมา ยังจะเข้าข่ายมีความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานอีกด้วย จะถูกสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้ขับขี่ที่เมาสุรา ซึ่งจะทำให้คุณต้องเผชิญกับบทลงโทษทางกฎหมายที่รุนแรง แม้ว่าคุณจะไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ก็ตาม

นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เปิดเผยต่อว่า กฎหมายเมาไม่ขับมีการพัฒนาเพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงของสังคมมาโดยตลอด การที่ผู้ขับขี่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วไปขับรถเป็นปัจจัยเสี่ยงที่นานาอารยประเทศได้กำหนดไว้ในกฎหมายว่ามีความผิด เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนทั้งกับตนเองและผู้ร่วมทาง การที่ผู้ขับขี่เมาแล้วขับถือเป็นการจงใจท้าทายกฎหมายโดยพื้นฐาน ยิ่งในกรณีปฏิเสธไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ย่อมเล็งเห็นถึงเจตนาที่จะหลบเลี่ยงเพื่อให้พ้นผิด จึงมีการออกกฎหมายเพื่อลงโทษผู้ฝ่าฝืนดังกล่าว ตนจึงขอเตือนผู้ที่มีชื่อเสียงอย่าคิดว่าเป็นคนสาธารณะ คนที่มีชื่อเสียง จะทำอะไรก็ได้ ยิ่งดัง ยิ่งเจ็บ ส่วนประชาชนผู้ขับขี่ ถ้ามีความจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขอให้งดขับขี่ยานพาหนะอย่างเด็ดขาด

เพิ่มเพื่อน Line Official

spot_img

ข่าวใหม่ล่าสุด

ข่าวเด็ด ห้ามพลาด