back to top
28.4 C
Samut Prakan
Saturday, December 7, 2024
spot_img

ข่าวใหม่ล่าสุด

spot_img

NARIT ร่วม NASA และนานาประเทศ ใช้กล้องโทรทรรศน์แห่งชาติ ร่วมสังเกตการณ์ “ดาวยูเรนัสบังดาวฤกษ์”

เชียงใหม่ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร. หรือ NARIT) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ใช้กล้องโทรทรรศน์แห่งชาติ ขนาด 2.4 เมตร บนดอยอินทนนท์ จ. เชียงใหม่

สังเกตการณ์ปรากฏการณ์ “ดาวยูเรนัสบังดาวฤกษ์” ร่วมกับ NASA และหอดูดาวขนาดใหญ่ทั่วโลก เก็บข้อมูลศึกษาวิจัยการเปลี่ยนแปลงของชั้นบรรยากาศ และสภาพแวดล้อมโดยรอบของดาวเคราะห์อันจะนำมาซึ่งการค้นพบองค์ความรู้ดาราศาสตร์ใหม่ ๆ ในอนาคต

ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า คืนวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ตามเวลาในประเทศไทย เกิดปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ “ดาวยูเรนัสบังดาวฤกษ์” ซึ่ง NASA Langley Research Center ได้เชิญหอดูดาวขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วโลก รวมถึงหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา หรือ หอดูดาวแห่งชาติ บนดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ให้เข้าร่วมสังเกตการณ์และเก็บข้อมูลปรากฏการณ์ในครั้งนี้ด้วย คืนดังกล่าว นักดาราศาสตร์ NARIT ได้ใช้กล้องโทรทรรศน์แห่งชาติ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.4 เมตร ร่วมเก็บข้อมูลโดยบันทึกภาพดาวยูเรนัสขณะกำลังบดบังดาวฤกษ์ 2MASS J03310965+1846263 ที่มีค่าอันดับความสว่างปรากฏประมาณ 13 นอกจากนี้ ภาพที่บันทึกได้ยังปรากฏให้เห็นดวงจันทร์บริวารขนาดใหญ่ของดาวยูเรนัส จำนวน 4 ดวง ได้แก่ มิแรนดา อัมเบรียล แอเรียล และไททาเนีย รวมถึงปรากฏให้เห็นวงแหวนบาง ๆ ของดาวยูเรนัสที่มีลักษณะตั้งฉากเมื่อมองจากโลก

ปรากฏการณ์ดาวยูเรนัสบังดาวฤกษ์ในคืนวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 สามารถสังเกตได้ในทุกพื้นที่ของทวีปเอเชีย มีเส้นทางเงาหลักผ่านรัสเซียและยุโรปตะวันออก สำหรับประเทศไทย ปรากฏการณ์เริ่มในเวลาประมาณ 00:29 น. ช่วงกลางของการบังเกิดที่เวลาประมาณ 0:59 น. และสิ้นสุดปรากฏการณ์เมื่อเวลาประมาณ 01:32 น. ซึ่ง NARIT เก็บข้อมูลตลอดระยะเวลาการเกิดปรากฏการณ์ดังกล่าว

การเก็บข้อมูลครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 ที่นักดาราศาสตร์จะได้ตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงชั้นบรรยากาศของดาวยูเรนัส โดยประเทศไทยจะร่วมวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับหอดูดาวในประเทศญี่ปุ่นและอินเดีย ได้แก่ หอดูดาวมหาวิทยาลัยฮอกไกโด หอดูดาวมหาวิทยาลัยเกียวโตซังเกียว หอดูดาวเดวัสถัล และหอดูดาวหิมาลายันจันทรา

ปรากฏการณ์ “ดาวเคราะห์บังดาวฤกษ์” (Stellar occultation by planets) เป็นปรากฏการณ์ที่ โลก ดาวเคราะห์ และดาวฤกษ์พื้นหลัง อยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน ทำให้เมื่อสังเกตดาวเคราะห์ด้วยกล้องโทรทรรศน์ที่อยู่บนโลก จะเห็นดาวเคราะห์บังดาวฤกษ์พื้นหลังไประยะหนึ่ง นักวิทยาศาสตร์เคยใช้ปรากฏการณ์นี้ตรวจพบสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบดาวเคราะห์ได้ ขณะที่ดาวเคราะห์กำลังเคลื่อนเข้ามาบังดาวฤกษ์พื้นหลัง หากแสงของดาวฤกษ์มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงก่อน-หลังการบังกัน หมายความว่าบริเวณรอบ ๆ    ดาวเคราะห์อาจมีมวลสารที่ทึบแสงซ่อนอยู่ เช่น การค้นพบวงแหวนของดาวยูเรนัส (พ.ศ. 2520) การค้นพบหลักฐานที่บ่งชี้ถึงวงแหวนของดาวเนปจูน (พ.ศ. 2527) และการค้นพบชั้นบรรยากาศของดาวพลูโต (พ.ศ. 2531) เป็นต้น

ปัจจุบัน นักดาราศาสตร์ยังคงใช้ประโยชน์จากปรากฏการณ์นี้ในการศึกษาพลังงานและโครงสร้างของบรรยากาศชั้นเทอร์โมสเฟียร์และสตราโตสเฟียร์ของดาวยูเรนัส เช่น การเก็บข้อมูลความหนาแน่นของชั้นบรรยากาศที่ระดับต่าง ๆ ผ่านการวัดความทึบแสงของชั้นบรรยากาศดาวเคราะห์ การติดตามข้อมูลเกี่ยวกับชั้นบรรยากาศของดาวยูเรนัส เพื่อนำมาใช้ออกแบบภารกิจยานสำรวจดาวยูเรนัสในอนาคต เป็นต้น

สำหรับกล้องโทรทรรศน์แห่งชาติ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.4 เมตร เป็นกล้องโทรทรรศน์ของประเทศไทย มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดใช้งานเมื่อปี พ.ศ. 2556 มีส่วนร่วมในโครงการวิจัยดาราศาสตร์ระดับนานาชาติมากมาย โดย NARIT ได้พัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ศึกษาวิจัยทางดาราศาสตร์ และซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพิ่มประสิทธิภาพการวิจัย และสะดวกต่อผู้ใช้งานซึ่งเป็นนักดาราศาสตร์จากทั่วโลก

 

เพิ่มเพื่อน Line Official

spot_img

ข่าวใหม่ล่าสุด

ข่าวเด็ด ห้ามพลาด