back to top
35 C
Samut Prakan
Monday, October 20, 2025
spot_img

ข่าวใหม่ล่าสุด

spot_img

“Link for Life” ลิงค์เล็ก ๆ ที่ช่วยต่อชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉิน สจล. ผนึกตำรวจ – หน่วยฉุกเฉิน พัฒนาเทคโนโลยีเปิดทางให้ชีวิต

 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดตัวโครงการ “Link for Life” นวัตกรรมเพื่อสังคมที่ผสานเทคโนโลยีและหัวใจของการช่วยชีวิตเข้าด้วยกัน ผ่านระบบ ติดตามการเดินทางฉุกเฉินแบบเรียลไทม์ (Real-time Communication) ที่สามารถระบุตำแหน่งรถพยาบาลและส่งข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในพื้นที่ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก เปิดเส้นทาง และลดระยะเวลาในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที

รศ. ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า โครงการ “Link for Life” เริ่มจากแนวคิดในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้และเชื่อมโยงเครือข่ายแห่งความร่วมมือเพื่อช่วยต่อชีวิตผู้ป่วยฉุกเฉินและยังช่วยแก้ปัญหาการจราจรที่เป็นอุปสรรคสำคัญ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ที่รถติดหนาแน่น  ซึ่งเพียงแค่เสี้ยววินาทีอาจหมายถึงโอกาสในการรักษาชีวิตของผู้ป่วย นวัตกรรมนี้ทำงานผ่านลิงค์บนโทรศัพท์มือถือที่สามารถส่งพิกัดรถพยาบาลไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบเรียลไทม์ เพื่อให้สามารถมองเห็นการเคลื่อนที่ของรถได้ทันที พร้อมบริหารจัดการสัญญาณไฟหรือเคลียร์เส้นทางล่วงหน้า เพื่อให้รถพยาบาลถึงโรงพยาบาลได้เร็วและปลอดภัยที่สุด

จุดเด่นของ “Link for Life” ไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่คือ “เครือข่ายแห่งความร่วมมือ” ระหว่างหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นหน่วยกู้ชีพ โรงพยาบาล ตำรวจจราจร หน่วยงานท้องถิ่น และภาคประชาชน ที่มีเป้าหมายเดียวกันคือการช่วยชีวิตผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บ โดยระบบยังสามารถบันทึกเส้นทาง เวลา และข้อมูลการเดินทาง เพื่อใช้วิเคราะห์แนวทางพัฒนาและบริหารจัดการจราจรในอนาคต อันเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดสู่การพัฒนา “เมืองอัจฉริยะ (Smart City)” ที่ให้ความสำคัญกับ “ชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน” เป็นอันดับแรก

ทั้งนี้ โครงการได้เริ่มทดสอบและใช้งานจริงตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2568 โดยมีความร่วมมือระหว่าง สถานีตำรวจนครบาลจรเข้น้อย และหน่วยงานฉุกเฉินเคลื่อนที่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งผลการดำเนินงานระยะแรกสะท้อนให้เห็นว่าระบบสามารถช่วยให้การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ลดระยะเวลาการเดินทาง และเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้จริง

รศ. ดร.คมสัน มาลีสี กล่าวต่อว่า “Link for Life” ไม่ใช่เพียงนวัตกรรมเทคโนโลยี แต่คือสัญลักษณ์ของสังคมที่มีหัวใจที่ไม่ปล่อยให้ชีวิตใดต้องรอความช่วยเหลือ ทุกวินาทีคือโอกาสในการรักษาชีวิต  ซึ่งโครงการนี้ยังสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขององค์การสหประชาชาติหลายด้าน ได้แก่ SDG 3 Good Health and Well-being  เพิ่มประสิทธิภาพระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน ลดอัตราการเสียชีวิตจากความล่าช้า, SDG 9 Industry, Innovation and Infrastructure เพื่อประยุกต์ใช้เทคโนโลยี GPS และ IoT สร้างโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะด้านจราจรและการแพทย์, SDG 11 Sustainable Cities and Communities เพื่อพัฒนาเมืองที่ปลอดภัยและใส่ใจชีวิต, SDG 17 Partnerships for the Goals เพื่อเสริมพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายร่วมกันอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ภายในงานแถลงข่าวยังจัดให้การมีเสวนา “Link For Life เทคโนโลยีเชื่อมใจ เปิดทางช่วยชีวิต” โดยมีวิทยากร ผู้ร่วมเสวนา ประกอบด้วย ผศ.ดร.ชดชนก อัฑฒพงศ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกายภาพและสิ่งแวดล้อม ผู้ดำเนินการเสวนา, พ.ต.อ.สุนทรเกียรติ คล้ายกรุต รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3, พ.ต.ท.พลเชษฐ์ มาดี สารวัตรจราจร สน.จรเข้น้อย, ผศ.ดร.ปูรณ์ ขวัญสุวรรณ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ, รศ.ดร.ชุมพร ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกายภาพ จราจรและความปลอดภัย, รศ.ดร.
จรสวรรณ โกยวานิช รองอธิการบดีฝ่ายบริหารทรัพย์สิน และความยั่งยืน สจล. และแพทย์หญิงฐิติกาญจน์ เลาหสุรโยธิน นายแพทย์ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม วิชาการ ชำนาญการ รองผู้อำนวยการการแพทย์โรงพยาบาล นคราภิบาล

พ.ต.อ.สุนทรเกียรติ คล้ายกรุต รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 กล่าวว่า โครงการ “Link for Life” เป็นอีกก้าวสำคัญของการบูรณาการเทคโนโลยีเข้ากับภารกิจด้านความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ต้องแข่งกับเวลา การมีระบบที่สามารถสื่อสารข้อมูลตำแหน่งรถพยาบาลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแบบเรียลไทม์ จะช่วยให้สามารถจัดการจราจร เปิดเส้นทาง และอำนวยความสะดวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดอุปสรรคในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และเพิ่มโอกาสในการรักษาชีวิตให้ทันเวลา ซึ่งถือเป็นตัวอย่างของการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐและสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ภารกิจเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

แพทย์หญิงฐิติกาญจน์ เลาหสุรโยธิน นายแพทย์ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม วิชาการ ชำนาญการ รองผู้อำนวยการการแพทย์โรงพยาบาลนคราภิบาล กล่าวว่า  การมีแอปพลิเคชันอย่าง ‘Link for Life’ จึงเข้ามาช่วยยกระดับระบบบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน และทำให้การบริหารจัดการจราจรสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และระบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้เรา เข้าถึงผู้ป่วยได้รวดเร็ว เท่านั้น แต่ยังช่วย ลดปัญหาอุบัติเหตุ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างทาง เพราะบางครั้งรถพยาบาลอาจจำเป็นต้อง ฝ่าไฟแดง ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้ร่วมทางได้ การมีเทคโนโลยีนี้จึงเป็นการส่งเสริมให้การช่วยเหลือฉุกเฉินเป็นไปอย่าง รวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้น

โครงการ “Link for Life” ดำเนินการโดย สจล.ร่วมกับ สถานีตำรวจนครบาลจรเข้น้อย, โรงพยาบาล
นคราภิบาล, สำนักวิจัยนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (SCiRA) และ สำนักงานบริหารทรัพยากรกายภาพและสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์สังคมยุคใหม่ และสร้างเมืองที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี “เพราะทุกเสี้ยววินาที คือความหวัง และ Link for Life คือคำตอบของชีวิต”

ติดตามข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหวของ สจล. ได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficial  และเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th   หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000

 

เพิ่มเพื่อน Line Official

spot_img

ข่าวใหม่ล่าสุด

ข่าวเด็ด ห้ามพลาด